โดยทั่วไปแล้ว ประกันภัยรถยนต์จะให้ความคุ้มครองความเสียหายจากแผ่นดินไหว ขึ้นอยู่กับประเภทของประกันภัยที่คุณมี:
- ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1: โดยส่วนมากจะให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากภัยธรรมชาติ รวมถึงแผ่นดินไหว โดยไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งจะครอบคลุมความเสียหายต่อตัวรถยนต์โดยตรง หรือความเสียหายที่เกิดจากสิ่งอื่นมากระทบ เช่น กำแพงล้มทับ หรือเศษวัสดุหล่นใส่
- ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+, 3+: โดยทั่วไปแล้วจะไม่คุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติ รวมถึงแผ่นดินไหว แต่ บางบริษัทประกันภัยอาจมีแผนประกันเพิ่มเติม หรือซื้อความคุ้มครองภัยธรรมชาติเพิ่มได้ ซึ่งคุณจะต้องตรวจสอบในกรมธรรม์ของคุณว่ามีความคุ้มครองในส่วนนี้หรือไม่
- ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2, 3: โดยทั่วไปแล้วจะไม่ให้ความคุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติ
ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ คุณต้องตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ของคุณอย่างละเอียด ว่ามีเงื่อนไขความคุ้มครองความเสียหายจากแผ่นดินไหวหรือไม่
หากกรมธรรม์ของคุณให้ความคุ้มครองความเสียหายจากแผ่นดินไหว คุณสามารถดำเนินการเคลมประกันได้ โดยมีขั้นตอนเบื้องต้นดังนี้:
- ตรวจสอบกรมธรรม์: ยืนยันว่ากรมธรรม์ของคุณคุ้มครองความเสียหายจากแผ่นดินไหว
- ถ่ายรูปความเสียหาย: บันทึกภาพความเสียหายของรถยนต์จากหลายๆ มุม เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการเคลม
- ติดต่อบริษัทประกันภัย: แจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับบริษัทประกันภัยโดยเร็วที่สุด ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวัน เวลา สถานที่เกิดเหตุ และรายละเอียดความเสียหาย
- ยื่นเอกสาร: เตรียมเอกสารที่บริษัทประกันภัยร้องขอ เช่น สำเนาทะเบียนรถ สำเนาใบขับขี่ สำเนาบัตรประชาชน และกรมธรรม์ประกันภัย
- รอการตรวจสอบ: บริษัทประกันภัยจะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบความเสียหายและประเมินค่าซ่อมแซม
- ดำเนินการซ่อมแซม: นำรถเข้าซ่อมที่อู่ในเครือของบริษัทประกันภัย หรืออู่ที่คุณเลือก (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
ข้อควรจำ:
- ควรรีบแจ้งบริษัทประกันภัยทันทีที่ทราบความเสียหาย
- เก็บหลักฐานทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับความเสียหาย
- ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตรวจสอบของบริษัทประกันภัย
หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับความคุ้มครองในกรมธรรม์ของคุณ หรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ควรติดต่อบริษัทประกันภัยหรือตัวแทนประกันภัยที่คุณทำสัญญาไว้โดยตรง เพื่อขอข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจนที่สุดครับ