โดยทั่วไปแล้ว การเคลมประกันรถยนต์กรณีที่กุญแจรถหายนั้น ขึ้นอยู่กับประเภทของประกันที่คุณทำไว้ค่ะ
- ประกันรถยนต์ชั้น 1: โดยส่วนใหญ่ จะคุ้มครอง กรณีที่กุญแจรถหายจากการถูกโจรกรรม ชิงทรัพย์ หรือลักทรัพย์ โดยคุณจะต้องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน แล้วนำใบแจ้งความมายื่นเรื่องเคลมกับบริษัทประกันภัย ซึ่งบริษัทประกันจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการทำกุญแจรถใหม่ให้ค่ะ บางกรณี ประกันชั้น 1 อาจคุ้มครองกรณีที่กุญแจหายจากอุบัติเหตุจนไม่สามารถใช้งานได้ด้วยค่ะ
- ประกันรถยนต์ชั้น 2+: ประกันประเภทนี้ อาจจะคุ้มครอง กรณีที่กุญแจรถหายพร้อมกับการถูกโจรกรรมรถยนต์ค่ะ คือถ้ารถหายไปด้วย กุญแจที่หายไปพร้อมรถก็จะเข้าข่ายการเคลมรถหาย ซึ่งประกันจะชดเชยตามทุนประกันที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
- ประกันรถยนต์ชั้น 2, 3+, 3: โดยทั่วไปแล้ว จะไม่คุ้มครอง กรณีที่กุญแจรถหายเพียงอย่างเดียวค่ะ ประกันเหล่านี้จะเน้นความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์และคู่กรณีเป็นหลัก
สรุปง่ายๆ คือ ถ้าทำประกันชั้น 1 ไว้ และกุญแจหายจากการถูกขโมย หรือเป็นเหตุให้รถถูกขโมย คุณมีสิทธิ์เคลมประกันได้ค่ะ แต่ถ้ากุญแจหายด้วยความประมาทเลินเล่อส่วนตัว เช่น ทำตก หล่น หรือลืมไว้ ประกันส่วนใหญ่จะไม่คุ้มครองค่ะ
สิ่งที่ควรทำเมื่อกุญแจรถหาย:
- ตั้งสติและลองค้นหาอย่างละเอียด ในบริเวณที่คุณคาดว่าจะทำหาย
- หากไม่พบ ให้รีบแจ้งความที่สถานีตำรวจ เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยเฉพาะกรณีที่คุณสงสัยว่าอาจถูกโจรกรรม
- ติดต่อบริษัทประกันภัยทันที เพื่อแจ้งเหตุการณ์และสอบถามถึงความคุ้มครองตามกรมธรรม์ของคุณ
- เตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น ใบแจ้งความ กรมธรรม์ประกันภัย สำเนาทะเบียนรถ และบัตรประชาชน เพื่อใช้ในการยื่นเคลม (หากเข้าข่ายความคุ้มครอง)
- หากประกันคุ้มครอง บริษัทประกันจะแนะนำขั้นตอนการดำเนินการทำกุญแจใหม่ต่อไป ซึ่งส่วนใหญ่จะให้คุณติดต่อศูนย์บริการของรถยนต์
ข้อควรระวัง: การทำกุญแจรถใหม่โดยไม่มีกุญแจสำรอง อาจมีค่าใช้จ่ายที่สูง และอาจต้องมีการตั้งโปรแกรมกุญแจใหม่ด้วย ดังนั้นการเก็บรักษากุญแจรถให้ดีและมีกุญแจสำรองจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก